Custom Search

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Good bye Coffee Blood

สวัสดีทุกๆ ท่านอีกครั้ง

วันนี้ Cooffee Blood จะมาบอกลาเพื่อนๆ ทุกคนแล้วนะคะ นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้พบกัน อย่าเพิ่งตกอกตกใจกันไปใหญ่นะคะ

วันนี้จะมาบอกว่า ตอนนี้ทรายได้ทำการย้ายเนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกาแฟไปไว้ที่เว็บไซต์ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ นั่นก็คือ www.maeyingzine.com ซึ่งในเว็บไซต์นี้ก็จะมีเนื้อหาเรื่องราวๆ ที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ เพลง หนังสือ ความสวยความงาม เอาไว้ค่ะ

ซึ่งจริงๆ แล้วก้คล้ายๆ กับเป็นไดอารี่ของทรายเองนะคะ แต่ด้วยความที่ก็ไม่อยากจะทิ้งเรื่องราวของกาแฟ ที่เราชื่นชอบและอยากแบ่งปันไปเสียทีเดียว ก็เลยคิดว่างั้นแยกออกมาเป็น Catagories ดีกว่า มีพื้นทีื่ให้กับ Coffee Blood, Wanlapleng (วันละเพลง) ได้ยังอยู่

ซึ่งใน www.maeyingzine.com นี้เพื่อนๆ ก็จะได้อ่านอะไรๆ อีกเยอะ แล้วก็หลากหลายมากขึ้นค่ะ ยังไงก็อย่าลืมติิดตามกันนะคะ แล้วทรายจะนำเรื่องราวของกาแฟมาให้ติดตามอ่านเหมือนเดิมแน่นอนค่ะ

นอกจากนี้ทรายก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ หลายๆ คน ที่เห็นว่าบล็อกเงียบไปนาน แล้วไถ่ถามกันเข้ามาทั้งส่งอีเมล์ แล้วก็พูดคุยกันผ่านช่องทางของ Twitter ซึ่งนั่นก็ทำให้ทรายรุ้สึกดีใจมากๆ ว่าบล็อกของเรามีคนอ่าน มีคนติดตามเราด้วยนะ แล้วนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจ ที่ทำให้รู้สึกว่าเรายังอยากที่จะเขียนบล็อก อยากแบ่งปันเรื่องราวต่อไป ก็ต้องขอขอบคุณเ้พื่อนๆ มากๆ นะคะ

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอฝาก www.maeyingzine.com ไว้ด้วยนะคะ แล้วถ้าหากใครที่เข้าไปเยี่ยมชมแล้ว อยากจะติชม หรือแนะนำอะไร ก็สามารถคอมเม้นท์กันได้นะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ^^

แล้วพบกันที่ www.maeyingzine.com ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

6 Tips for Coffee Lovers

สวัสดีค่ะ เมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสได้ไปอ่านนิตยสาร First มาค่ะ แล้วเห็นมีบทความให้ข้อมูลที่ดีที่เกียวกับการดื่มกาแฟ ก็เลยนำข้อมูลนี้มาบอกเล่า บอกต่อให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ ^ ^


รู้ก่อนดื่มกาแฟ

  1. โดยปรกติทั่วไปเราสามารถดื่มกาแฟได้มากถึง 6 แก้ว / 1 วัน
    แต่ต้องไม่เข้มจนเกินไป ไม่มากกว่า 2 ช้อนชา / 1 ถ้วย สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจหรือมีปัญหาเรื่องความดัน ซึ่งร่างกายอยู่ในภาวะไม่ปรกติควรลดปริมาณการดื่มกาแฟไม่เกิน 2 แก้ว/1 วัน
  2. ข้อดีของกาแฟ คือ ช่วยกระตุ้นและทำให้ร่างกายมีความตื่นตัว
    โดยเข้าไปกระตุ้นหลอดเลือดแถวที่เลี้ยงหัวใจให้ขยายตัว จึงทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
  3. กาแฟยังช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนให้ลดลง
    ช่วยให้หลอดเลือดแถวบริเวณศีรษะหดตัว สอดคล้องกับคุณสมบัติของยาแก้ปวดไมเกรนในทางการแพทย์ ที่มีชื่อว่า “คาฟอริกอต” เป็นกาเฟอีนสกัด จัดเป็นยาสำหรับแก้อาการปวดไมเกรนเฉพาะ
  4. ถ้าอยากสร้างความตื่นตัวแต่ไม่อยากให้กาเฟอีนอยู่ในร่างกายของเรามากเกินไป
    แนะนำให้เลือกดื่มกาแฟดำแทน เพราะว่าร่างกายจะขับออกมาได้ง่ายกว่า แต่ถ้ากาแฟที่ผสมทั้งนม น้ำตาล และ คอฟฟี่เมต จะมีปริมาณสารอาหารเพิ่มขึ้น ร่างกายจะทำการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งมีผลให้กาเฟอีนตกค้างอยู่ในร่างกายนานกว่า
  5. ระหว่างกาแฟเย็น กับ ร้อนแนะนำให้เลือกดื่มกาแฟร้อนดีกว่า
    ถ้าเทียบพลังงานแล้ว กาแฟร้อนจะให้พลังงานต่ำกว่ากาแฟเย็น โดยกาแฟเย็น 1 แก้วให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ แต่ถ้าเทียบกับกาแฟดำร้อนจะไม่เกิน 100 แคลอรี่ / 1 แก้ว
  6. กาเฟอีนเป็นตัวละลายแคลเซียม
    กาแฟจะขับเอาแคลเซียมที่สะสมตามกระดูกและผิวหนังออกมา เวลาที่เราปัสสาวะ ดังนั้นคนที่อายุเข้าสู่เลขสามแล้ว ควรลดปริมาณการดื่มกาแฟให้น้อยลง เพราะอาจมีผลให้กระดูกพรุนได้ง่าย

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ รุ่งเรือง คลองบางลอ นักโภชนาการจาก Philip Waim

ที่มา : นิตยสาร First

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552

My Broken Heart Story

สวัสดีค่ะ

กลับมาแล้วค่ะ หลังจากเจ้าของบล็อกหายหน้าหายตาไปนานแสนนานเหลือเกิน อิอิ (แอบเกเรนิดหน่อย) ค่ะ วันนี้กลับมาพร้อมเรื่องราวดีๆ อีกเหมือนเคยค่ะ ถึงแม้ว่าวันนี้จะนำเรื่องราวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกาแฟสักนิดก็ตาม..อ้าว! ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับกาแฟ แล้วจะเป็นเรื่องอะไรกันล่ะเนี่ย


วันนี้ขอนำ MV ประกอบหนังสือมาแนะนำให้รู้จักและได้ชมกันค่ะ โดยปรกติแล้วเวลาที่ทำการโปรโมทหนังสือสักเล่มเนี่ย โดยทั่วไปก็คงจะมีการเปิดตัวหนังสือตามร้านหนังสือชั้นนำ หรือ นำไปฝากให้กับบรรดาหนังสือนิตยสารดังๆ ทั่วไปช่วยเขียนแนะนำหนังสืออย่างที่เราๆ เห็นกันอยู่ทั่วไป จริงไหมคะ

แต่วันนี้สำนักพิมพ์น้องใหม่ IDU Publishing (ไอดู พับลิชชิ่ง) คิดหาวิธีการแนะนำหนังสือในรูปแบบใหม่ค่ะ ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว นำเทคโนโลยี และความสนใจของคนปัจจุบันมาผสมผสานได้อย่างดี โดยจัดทำเป็น MV แนะนำหนังสือ แล้วนำขึ้นเว็บไซต์ดังอย่าง Youtube เพื่อแนะนำให้คนได้รู้จักค่ะ

โดยหนังสือที่นำมาแนะนำเล่มนี้มีชื่อว่า Amazon Make Me Rich ค่ะ หากเพื่อนๆ คนใดสนใจก็สามรถรับชม MV นี้ได้เลยนะคะ และหากเพื่อนๆ คนใดมีความคิดเห็นอย่างไรก็สามารถแนะนำไว้ได้เช่นกัน เผื่อเจ้าของ MV จะแวะเข้ามาเยี่ยมชมแล้วจะได้เห็นบ้างค่ะ อิอิ ^ ^





วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ท่าทางยามดื่มกาแฟ บ่งบอกความเป็นตัวคุณ


ก่อนจะเข้าสู่วันปีใหม่ Coffee Blood ขอนำเรื่องราวเกี่ยวกับการทำนายมาฝากให้ได้อ่านกันอีกสักหนึ่งบทความก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่ปีใหม่อีกหนึ่งปี

เมื่อครั้งที่ผ่านมาได้นำคำทำนายที่เกี่ยวกับรสชาติของกาแฟที่ชื่นชอบไปแล้ว และยังลักษณะหรือรูปแบบของแก้วกาแฟที่ชื่นชอบว่าสามารถบ่งบอกความเป็นตัวคุณได้ไปแล้ว ยังไม่หมดเท่านี้นะคะ คุณทราบหรือไม่คะว่า ลักษณะท่าทางยามที่คุณดื่มกาแฟนั้น ก็สามารถบอกความเป็นตัวตนของคุณได้เช่นกันค่ะ

ลักษณะท่าทางของแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันออกไป ดังนั้นเรามาดูกันว่าแต่ละท่าทางยามที่ดื่มกาแฟนั้น จะบ่งบอกว่าคุณเป็นคนอย่างไรบ้างดีกว่าค่ะ

ใช้นิ้วชี้เกี่ยวใช้นิ้วชี้เกี่ยวถ้วยกาแฟ
คนที่ใช้นิ้วชี้เกี่ยวหูถ้วยกาแฟเอาไว้ แล้วก็ใช้นิ้วโป้งยันขอบถ้วยกาแฟด้านบนอีกนั้น เป็นท่าที่คนส่วนใหญ่มักใช้ถือถ้วยเวลาชงกาแฟดื่มกัน ซึ่งได้แสดงถึงนิสัยที่เป็นคนมีอัตตาสูง หรือมีความคิดว่าตัวเองดีที่สุด จึงทำให้เป็นคนที่ไม่ค่อยฟังความคิดเห็นของคนอื่นสักเท่าไหร่

ใช้นิ้วมือ 3 นิ้วเกี่ยวถ้วยกาแฟ
คนที่ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางเกี่ยวหูถ้วยกาแฟเอาไว้ โดยที่มีนิ้วโป้งคอยยึดขอบบนของถ้วยกาแฟนั้นแสดงถึงนิสัยที่เชื่อมั่นในตัวเอง และยังเป็นคนที่มีความมั่นคงสูง โดยเฉพาะในเรื่องความรัก ดังนั้นเมื่อรักใครก็มักจะรักเดียวใจเดียว ไม่ชอบคบคนทีละหลายๆ คน เป็นคนจริงจัง ซีเรียสกับเรื่องการใช้ชีวิตอยู่

ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ถือถ้วยกาแฟ
สำหรับคนที่มีใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้เท่านั้นที่ถือถ้วย ส่วนนิ้วที่เหลือ คือนิ้วกลาง นาง ก้อย จะยื่นกางออกมาหมดนั้น จะแสดงถึง ลักษณะนิสัยที่เป็นคนเปลี่ยนแปลงง่าย จะทำทุกอย่างตามอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งในสายตาคนทั่วไปมองว่าไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยสักเท่าไหร่ แต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนที่คุยสนุก ร่าเริง แจ่มใส

ใช้นิ้วก้อยยันก้นถ้วยเอาไว้
คนที่ใช้นิ้วโป้งยันขอบบนของถ้วยกาแฟ และนิ้วก้อยยันขอบล่างหรือก้นถ้วยเอาไว้ แล้วทั้งสามนิ้วคือนิ้วชี้ กลาง นางจะเกี่ยวห่วงถ้วยกาแฟเอาไว้นั้น นิสัยโดยทั่วไปมักเป็นคนที่มีนิสัยรักความอิสระ ไม่ชอบให้ตนเองตกอยู่ในการควบคุมของใคร มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ชอบทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำกัน แล้วยังรักชีวิตที่ได้เสี่ยงภัยมากอีกด้วย

ถือถ้วยกาแฟโดยนิ้วก้อยกางออก
เป็นคนทีนิสัยเงียบๆ ไม่ชอบการได้อยู่ในกลุ่มคนมากสักเท่าไหร่ ยิ่งคนที่ไม่คุ้นเคยกันมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่คนสมถะหรือสันโดษเสียทีเดียว แต่ออกไปทางชอบหมกมุ่นอยู่กับความคิดและปัญหาของตัวเองมากกว่า หรืออาจจะเรียกว่าเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงก็ว่าได้ และเมื่อพบเจอกับปัญหาก็จะชอบที่จะครุ่นคิด พิจารณาด้วยตนเองมากกว่าการไปปรึกษาคนอื่น

ใช้สองมือกุมถ้วยกาแฟ
เป็นคนที่มีนิสัยอ่อนโยน โรแมนติก ช่างฝันมาก ใจอ่อน บ่อน้ำตาตื้นซะไม่มี แค่ดูหนังเศร้าๆ เข้าหน่อยก็ร้องไห้ได้เป็นวรรคเป็นเวร ขี้งอนและเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด แต่ก็มีความน่ารักตรงที่เป็นคนรักบ้าน ชอบอยู่ใกล้ชิดครอบครัว



เป็นอย่างไรบ้างคะ ตรงกันบ้างหรือเปล่า นอกจากจะมีคำทำนายเกี่ยวกับท่าทางยามดื่มกาแฟมาฝากแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่อยากแนะนำค่ะ เพื่อนๆ คงเคยนอนหลับแล้วฝันกันอย่างแน่นอนนะคะ บางคนก็เอาไปตีเป็นเลขเด็ดก็มี แต่จะถูกหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ แล้วทีนี้เพื่อนๆ เคยฝันถึงกาแฟบ้างหรือเปล่าคะ เชื่อไหมคะว่าการทำนายความฝันสำหรับผู้ที่ฝันถึงกาแฟด้วยนะคะ แต่จะมีความหมายอย่างไร ต้องติดตามอ่านกันที่
http://www.tumnaifun.com/ ค่ะ ^ ^

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551

chill chill @ iBerry

ตามที่ได้ให้สัญญาว่าจะนำภาพบรรยากาศภายในร้านกาแฟ iBerry ของคุณโน้ตอุดม ที่จังหวัดเชียงใหม่มาให้ชม วันนี้ก็ได้ฤกษ์งามยามดีอัพขึ้นบล็อกให้ชมกันเสียทีนะคะ
บรรยากาศภายในร้านนั้นก็แน่นอนว่าตกแต่งได้อย่างสวยงามอยู่แล้ว ตามสไตล์ของศิลปินนะคะ ตั้งแต่หน้าร้านเข้ามาก็มีรูปปั้นใหญ่เด่นเป็นสง่าก็คือ รูปของท่านเหมาเจ๋อตุง และก็สัญลักษณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนพี่โน้ตไปแล้ว


ส่วนบริเวณภายในร้านที่ชอบมากๆ ก็จะเป็นโคมไฟหลากสีที่ใช้ถ้วยพลาสติกหลายๆ สีมาบรรจุอยู่ในกรงเหล็กอีกที หากสงสัยว่าเป็นอย่างไร ลองดูที่รูปก็ได้นะคะ นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีเก้าอี้ที่มีลักษณะเหมือนหีบหรือกล่องโบราณน่ะค่ะ ของตกแต่งในร้านส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นของโบราณที่นำมาตกแต่งได้อย่างสวยงาม แบบอาร์ทๆ จริงๆ


และเท่าที่สังเกตจะเห็นว่านิยมใช้สัญลักษณ์เหมือนกับหัวมิกกี้เมาท์นะคะ บริเวณที่นั่งทานในร้านก็จะมีผนังที่ทำเป็นสัญลักษณ์นั้นด้วย (สามารถชมภาพได้ที่สไลด์ด้านล่างนะคะ) นอกจากผนังแล้ว ก็ยังมีหมายเลขคิวที่จะตั้งไว้บนโต๊ะเหมือนเวลาที่สั่งอาหารแล้วแจ้งให้พนักงานทราบน่ะค่ะว่าโต๊ะเบอร์อะไรยังไม่ได้ของบ้าง ก็จะเป็นรูปสัญลักษณ์ iBerry ที่คล้ายกับหัวมิกกี้เมาท์เหมือนกัน ก็น่ารักไปอีกแบบค่ะ

ส่วนไอศกรีมของร้านนั้นก็อร่อยจริงๆ ค่ะ ตอนที่ไปทานนั้นจำไม่ได้แล้วจริงๆ ว่าทานรสอะไรไป - -“ ต้องขออภัยด้วย มัวแต่นั่งชมบรรยากาศภายในร้านซะเพลิน แต่ที่จำได้แน่นอนก็คือ รสชาติของกาแฟคาปูชิโน่ร้อน จำได้ว่ารสชาตินุ่มมากๆๆๆๆ จริงๆ ค่ะ ถ้าใครมีโอกาสได้ไป อย่าลืมลองสั่งคาปูชิโน่ร้อนมาดื่มดูบ้างนะคะ เพราะว่ารสชาติของเค้านั้นนุ่มจริงๆ ค่ะ ต้องลองๆๆ ^^

ส่วนภาพบรรยากาศต่างๆ ที่ได้เล่ามานั้นสามารถรับชมได้ที่สไลด์ด้านล่างนะคะ ^ ^






วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Coffee in Love in Pai

ตอนนี้ก็เข้าช่วงหน้าหนาวเข้ามาเรื่อยๆ แล้วนะคะ นอกจากหน้าหนาวที่ใกล้เข้ามาแล้วก็ยังมีเทศกาลวันหยุดยาวช่วงสิ้นปีที่กำลังใกล้เข้ามาด้วยเหมือนกัน

หลายๆ คนก็เริ่มที่จะวางแผนกันแล้วนะคะว่า สิ้นปีนี้จะไปเที่ยวที่ไหนกันดี และก็รับรองว่าคนส่วนใหญ่ถ้าให้เลือกไปเที่ยวในช่วงหน้าหนาวก็คงหนีไม่พ้นการเลือกไปเที่ยวทางภาคเหนือ เพื่อรับอากาศของความหนาวที่มีมากกว่าภาคอื่นๆ รวมถึงกรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่แน่นอน


และสถานที่ท่องเที่ยวที่หนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และอีกไม่นานก็จะมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับคนรักหนังรวมคนที่รักบรรยากาศสงบๆ ของต่างจังหวัด นั่นก็คือ เมืองปาย นั่นเองค่ะ

และเมื่อราวๆ สิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเยือนเมืองปายมาค่ะ ถึงแม้อากาศในช่วงนั้นยังไม่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวมากนัก แต่บรรยากาศที่สงบ และบรรยากาศแห่งเมืองท่องเที่ยวนั้นก็ยังอบอวลอยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะไม่เรียกว่าประทับใจแบบลืมไม่ลง แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าถ้ามีโอกาสก็คงต้องกลับไปเยือนเมืองปายอีกสักครั้งอย่างแน่นอนค่ะ

เมื่อมีโอกาสได้ไปเยือนเมืองปายและแม่ฮ่องสอน ขอบอกว่าที่นั่นมีร้านกาแฟสดเต็มไปหมดจริงๆ ค่ะ และแต่ละร้านเองต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วตกแต่งร้านได้อย่างน่านั่งมากๆ จริงๆ ค่ะ และเมื่อบอกว่าไปปาย น้อยคนนักนะคะที่จะพลาดการเข้าไปถ่ายรูปและพักดื่มกาแฟร้านที่มีชื่อว่า Coffee In Love ซึ่งทรายก็มีโอกาสได้ไปถ่ายรูปเหมือนกัน เลยขอถือโอกาสเก็บภาพบรรยากาศมาฝากให้ได้ชมกันค่ะ







และนอกจากภาพบรรยากาศร้านกาแฟที่ Coffee In Love แล้ว ก็ยังมีภาพบรรยากาศร้าน iBerry ของโน้ต อุดมมาฝากกันในครั้งหน้าด้วยค่ะ ซึ่งร้าน iBerry นี้ไม่ได้มีแค่กาแฟเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีไอศกรีมอีกด้วย สำหรับภาพบรรยากาศของร้าน iBerry นั้นคงต้องขอยกไว้โอกาสหน้านะคะ สัญญาว่าจะนำภาพมาฝากกันแน่นอนค่ะ ^___^


แล้วพบกันอีกครั้งนะคะ

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เรื่องน่ารู้ของกาแฟกับสุขภาพ


สวัสดีค่ะ สำหรับวันนี้ก็มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟมาฝากกันอีกเช่นเคยนะคะ อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในกาแฟนั้นมีคาเฟอีน ทีนี้เพื่อนๆ คงเคยได้ยินกันมาบ้างว่าคนบางคนนั้นสามารถดื่มกาแฟได้ แต่สำหรับบางคนนั้นก็ไม่สามารถดื่มได้ อาจจะด้วยปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นหลังจากดื่มกาแฟเองก็ตาม และที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของสุขภาพอนามัยนั่นเองค่ะ ดังนั้นวันนี้จึงขอยกตัวอย่างโรคต่างๆ ว่าเมื่อคนที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้อยู่แล้วเกิดไปดื่มกาแฟขึ้นมาจะมีอาการที่แสดงออกมาเป็นอย่างไรบ้าง



โรคกระเพาะอาหาร นับว่าโรคกะเพราะอาหารนี้มีคนเป็นอยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวนะคะ สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้เมื่อดื่มกาแฟ หรืออาหารและเครื่องดื่มใดก็ตามที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ อาจทำให้เกิดอาการกำเริบของกะเพราะ จนทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแผลในกะเพราะอาหารได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าคาเฟอีนนั้นมีฤทธิ์กระตุ้นกะเพราะอาหารให้หลังกรดออกมาเพื่อช่วยย่อยอาหารอยู่แล้ว ดังนั้นจึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้อาการกะเพราะกำเริบได้ค่ะ


โรคไต คาเฟอีนมีส่วนในการช่วยกระตุ้นการถ่าย ซึ่งก็หมายความว่าเป็นการกระตุ้นการทำงานของไตเพิ่มมากขึ้นนั่นเองค่ะ ดังนั้นการดื่มกาแฟ 2 ขึ้นไปต่อวันนับเป็นการกระตุ้นและเพิ่มภาระในการทำงานให้กับไตหนักมากขึ้นนะคะ


โรคหัวใจ สำหรับโรคหัวใจนี้เราก็คงเคยได้ยินกันมาบ่อยๆ นะคะว่า ห้ามดื่มกาแฟโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะผู้ที่เป็น Heart Attack เพราะเชื่อว่าการดื่มกาแฟ จะเป็นการไปกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น แต่ผลการศึกษาในอังกฤษ และสหรัฐฯ พบว่า การดื่มกาแฟแบบกรองจะไม่เป็นสาเหตุให้หัวใจเต้นผิดปรกติ อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจนี้ ก็ควรปรึกษาแพทย์ให้ดีก่อนดื่มน่าจะดีกว่านะคะ


อาการปวดหลัง สำหรับอาการนี้เรียกว่าเป็นอาการที่น่าจะพบเจอบ่อยที่สุดสำหรับผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเราๆ ทุกท่าน ดังนั้นหากช่วงใดก็ตามที่เพื่อนๆ รู้สึกว่าอาการปวดหลังนี้กำเริบขึ้นมาเป็นพิเศษ ก็ควรที่จะงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนนะคะ นั่นก็เพราะว่าเจ้าคาเฟอีนจะไปกระตุ้นปลายเส้นโลหิตฝอยให้ตีบลง ซึ่งจะทำให้เลือกและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงเนื้อเยื่อของกระดูกสันหลังได้น้อยลง ซึ่งก็จะทำให้อาการปวดหลังนี้หายได้ช้าลงค่ะ


โรคกระดูกพรุน คาเฟอีนมีฤทธิ์ขับแคลเซียมออกจากกระแสโลหิต สำหรับผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนผสมในปริมาณที่มากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน


โรคมะเร็งเต้านม สำหรับโรคนี้เราก็คงเคยได้ยินกันมาบ่อยๆ แล้วนะคะ ซึ่งแต่เดิมนั้นก็บอกว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างกาแฟ มีส่วนในการกระตุ้นและเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งความเชื่อแต่เดิมนี้ได้ถูกลบล้างไปเมื่อมีนักวิจัยมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ของสถาบันคาโลลินสกา ประเทศ สวีเดนได้ลบล้างความเชื่อนี้ว่ากาแฟไม่ได้เป็นความเสี่ยงหนึ่งของโรคร้ายนี้แต่อย่างใด



ทีนี้เมื่อเพื่อนๆ ทราบแล้วก็อย่าลืมสังเกตตัวเองกันด้วยนะคะ ว่ามีลักษณะอาการดังที่กล่าวมาบ้างหรือเปล่า หากว่าท่านใดที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้อยู่ก็จะได้ระมัดระวังตัวในการดื่มกาแฟกันด้วยนะคะ ถึงแม้เราจะชื่นชอบการดื่มกาแฟมากแค่ไหนก็ตาม ยังไงเรื่องสุขภาพก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราควรจะต้องใส่ใจดูแล และให้ความสำคัญนะคะ