รู้ก่อนดื่มกาแฟ
- โดยปรกติทั่วไปเราสามารถดื่มกาแฟได้มากถึง 6 แก้ว / 1 วัน
แต่ต้องไม่เข้มจนเกินไป ไม่มากกว่า 2 ช้อนชา / 1 ถ้วย สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจหรือมีปัญหาเรื่องความดัน ซึ่งร่างกายอยู่ในภาวะไม่ปรกติควรลดปริมาณการดื่มกาแฟไม่เกิน 2 แก้ว/1 วัน - ข้อดีของกาแฟ คือ ช่วยกระตุ้นและทำให้ร่างกายมีความตื่นตัว
โดยเข้าไปกระตุ้นหลอดเลือดแถวที่เลี้ยงหัวใจให้ขยายตัว จึงทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า - กาแฟยังช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนให้ลดลง
ช่วยให้หลอดเลือดแถวบริเวณศีรษะหดตัว สอดคล้องกับคุณสมบัติของยาแก้ปวดไมเกรนในทางการแพทย์ ที่มีชื่อว่า “คาฟอริกอต” เป็นกาเฟอีนสกัด จัดเป็นยาสำหรับแก้อาการปวดไมเกรนเฉพาะ - ถ้าอยากสร้างความตื่นตัวแต่ไม่อยากให้กาเฟอีนอยู่ในร่างกายของเรามากเกินไป
แนะนำให้เลือกดื่มกาแฟดำแทน เพราะว่าร่างกายจะขับออกมาได้ง่ายกว่า แต่ถ้ากาแฟที่ผสมทั้งนม น้ำตาล และ คอฟฟี่เมต จะมีปริมาณสารอาหารเพิ่มขึ้น ร่างกายจะทำการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งมีผลให้กาเฟอีนตกค้างอยู่ในร่างกายนานกว่า - ระหว่างกาแฟเย็น กับ ร้อนแนะนำให้เลือกดื่มกาแฟร้อนดีกว่า
ถ้าเทียบพลังงานแล้ว กาแฟร้อนจะให้พลังงานต่ำกว่ากาแฟเย็น โดยกาแฟเย็น 1 แก้วให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ แต่ถ้าเทียบกับกาแฟดำร้อนจะไม่เกิน 100 แคลอรี่ / 1 แก้ว - กาเฟอีนเป็นตัวละลายแคลเซียม
กาแฟจะขับเอาแคลเซียมที่สะสมตามกระดูกและผิวหนังออกมา เวลาที่เราปัสสาวะ ดังนั้นคนที่อายุเข้าสู่เลขสามแล้ว ควรลดปริมาณการดื่มกาแฟให้น้อยลง เพราะอาจมีผลให้กระดูกพรุนได้ง่าย
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ รุ่งเรือง คลองบางลอ นักโภชนาการจาก Philip Waim
ที่มา : นิตยสาร First
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น